จากการเข้าแก้ปัญหาให้กับทาง user ผู้ใช้งานหลายๆท่าน ทั้งการช่วยเหลือการติดตั้ง เเละเเก้ปัญหาคำแนะนำด้านเทคนิคเบื่องต้น บ่อยครั้งที่จำเป็นต้องติดตั้ง windows ใหม่ ซึ่งจะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างง่ายสุด แล้วทำไมปัญหาการใช้งาน หรือติดตั้ง โปรแกรมกลุ่ม Office ถึงอาจจะต้องแก้ไขโดยการลงวินโดว์ใหม่เท่านั้น ( หรือ reset clean PC บางกรณี)
ลูกค้าส่วนมากชอบถามว่า ทำไมเเค่ซื้อ Office เเล้วต้องลงวินโดว์ใหม่? ทำไมติดตั้งไม่ได้ ทำไมเข้าใช้งานเเล้วเด้งออก เเล้ว Office มันเกี่ยวอะไรกับระบบวินโดว์? บทความนี้จะมาอธิบายสาเหตุให้เข้าใจมากขึ้นครับ
โดยปกติ การที่ลูกค้าส่วนมาก มีปัญหา office ร้อยล่ะ 80-90% มักจะมาจากการลงโปรแกรมปลอมมาก่อน เเละเด้งเเจ้งเตือน วิธีนี้ยังพอแก้ไขเบื้องต้นได้โดยการ ใช้โปรแกรมถอนไมโครซอฟท์ ไล่ถอนคีย์ฝั่ง ลบ crackผ่าน CMD หรือใช้เทคนิคอื่นๆเข้ามาผสม repair ไล่แก้ registry เเต่หาก แก้ปัญหาเบื้องต้น เเล้วไม่สามารถติดตั้งได้ จะเป็นการยากมากครับที่จะให้ assistance ของไมโครซอฟท์มาไล่ให้จุดต่อจุด เพราะการไล่แก้ปัญหานอกเหนือเเนะนำเบื้องต้น จำเป็นต้องทำเป็นงานเเบบ troubleshooting Quote ราคาแยกเป็นรายชั่วโมง โดยปกติการซื้อ license ทั่วไป จะไม่มีร้านค้าปลีกไหนไล่แก้ให้ครบครับ (Out of Scope of Work)
สาเหตุที่ windows เอง ยิ่งใช้ ยิ่งนานไป ยิ่งมีปัญหา และทำไมพอลงในเครื่องใหม่ๆ ไม่เคยมีอาการ? ปัญหานี้มักจะไม่ได้เกิดจากไวรัสเสมอไป แต่เกิดจากสิ่งที่เรียกว่า “System Decay” หรือการเสื่อมถอยของระบบปฏิบัติการ ที่ส่งผลให้ค่า Setting สำคัญ ใน Windows ถูกเปลี่ยนแปลงไปเองโดยไม่รู้ตัว และทำให้การลง Office ที่ต้องพึ่งพามาตรฐานความปลอดภัยที่อัพเดท เลยเกิดปัญหาขึ้น
การเปลี่ยนแปลงค่า Setting ที่มองไม่เห็น (Invisible Setting Changes) คือ เมื่อคุณใช้ Windows ไปนานๆ ติดตั้งและถอนโปรแกรมต่างๆ ระบบจะเกิดความไม่เสถียร (Instability) และบางครั้งไฟล์ระบบหรือค่า Registry ที่สำคัญก็ถูกเปลี่ยนแปลงหรือเสียหาย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการ Activate Office เช่น พอลงโปรแกรม a โปรแกรมบอกให้ติ้กตั้งค่าเเบบนี้ๆนะถึงจะยอมให้ลง พอไป b ลงต่อ ก็ตั้งค่าอีกแบบ พอถอน a เเล้ว ค่า setting เดิมยังคงไม่กลับมาตามเดิม ซึ่งแยกสาเหตุหลักๆ ออกมาเป็น 4 ประการ (ที่เจอบ่อย)
ปัญหาที่ 1: เวลาและใบรับรองความปลอดภัยไม่ตรงกัน (Time and Security Certificate Mismatch)
สิ่งที่เปลี่ยนไป: ค่า วันที่/เวลา (Date/Time) หรือ โซนเวลา (Time Zone) ของ Windows อาจถูกโปรแกรมอื่นกวน หรือแม้กระทั่งเกิดปัญหาที่แบตเตอรี่ CMOS ของเมนบอร์ด ทำให้เวลาระบบคลาดเคลื่อนอย่างถาวร
ผลกระทบต่อ Office คือ เมื่อ Office พยายามเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ของ Microsoft เพื่อ Activate ระบบจะตรวจสอบ “ใบรับรองความปลอดภัย” ซึ่งจะผูกติดกับเวลาของเครื่อง หากเวลาคลาดเคลื่อนมากเกินไป เซิร์ฟเวอร์จะมองว่าเป็นการเชื่อมต่อที่ไม่น่าเชื่อถือและ ปฏิเสธการ Activate ทันที
ปัญหาที่ 2: โปรโตคอลความปลอดภัยที่ล้าสมัย (Outdated Security Protocols: TLS)
สิ่งที่เปลี่ยนไป: ใน Windows เวอร์ชันเก่าที่ใช้มานาน (เช่น Windows 7 หรือ Windows 8.1 ที่ขาดการอัปเดตสำคัญ) หรือแม้แต่ใน Windows 10/11 ที่ไฟล์ระบบเสียหาย ค่า Registry ที่ควบคุมมาตรฐานความปลอดภัยในการสื่อสาร (เช่น TLS – Transport Layer Security) อาจไม่ได้เปิดใช้งานเวอร์ชันล่าสุด
ผลกระทบ คือ Microsoft บังคับให้การ Activate และการใช้งาน Office 365/Microsoft 365 ต้องใช้โปรโตคอล TLS 1.2 หรือใหม่กว่า หากค่า Registry ในเครื่องของคุณยังคงใช้ TLS เวอร์ชันเก่าอยู่ การเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ Microsoft จะถูก บล็อกอย่างสมบูรณ์ ทำให้ไม่สามารถ Activate ได้เลย
ปัญหาที่ 3: สิทธิ์การเข้าถึงบัญชีที่สับสน (Confused Account Permissions)
โปรแกรม Office สมัยใหม่ผูกสิทธิ์การใช้งานเข้ากับบัญชี Microsoft (Account-Based Activation) แต่เมื่อใช้คอมพิวเตอร์ไปนานๆ การจัดการสิทธิ์บัญชีผู้ใช้ (User Permissions) หรือการตั้งค่า Credential Manager อาจสับสนหรือมีข้อมูลบัญชีเก่าๆ ซ้อนทับกันอยู่
ข้อนี้ รวมถึงกรณี ที่ไปลงชุดปลอมที่ พ่วงมาทั้ง Visio / Project (หรือเคยติดตั้งมาเเล้วถอนออกไม่หมด) การจัดการสิทธิ์เบื้องหลังอาจจะมีปัญหาเเละไปกระทบกับการจะติดตั้ง Office เเท้ได้ หรือ กรณี ที่มี activation key ซ้อนกันหลายกลุ่ม
การทำลายระบบสิทธิ์ใช้งานของ Office โดยเครื่องมือเหล่านี้มักจะเข้าไปแก้ไข ไฟล์ระบบ (System Files) หรือ Registry ที่ใช้ร่วมกันในการจัดการสิทธิ์ใช้งานของ Office ทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้ Office ที่เป็นของแท้ของคุณกลายเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสิทธิ์ใช้งาน (Unlicensed Product) ทันที
อีกทั้ง มัลแวร์หรือไวรัสจากไฟล์ Crack หรือตัวติดตั้งปลอมมีความเสี่ยงสูงที่จะมี มัลแวร์หรือไวรัส แฝงอยู่ ซึ่งอาจทำลายไฟล์ที่สำคัญของ Office ทำให้โปรแกรมช้าลง หรือทำให้ระบบล่มได้
ปัญหาที่ 4: ไม่ได้อัพเดท ต้องอัปเดต IE หรือ Edge ให้เป็นปัจจุบัน
ผลกระทบต่อ Office: Office จะไม่สามารถยืนยันตัวตนของคุณกับระบบคลาวด์ได้ ทำให้เกิดข้อผิดพลาด “Unlicensed Product” หรือ “We couldn’t find any Office products” ทั้งๆ ที่คุณเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีที่ถูกต้องแล้ว
เพราะแอปพลิเคชัน Office (Word, Excel ฯลฯ) มักจะใช้ส่วนประกอบของเบราว์เซอร์ เพื่อแสดงหน้าต่างการเข้าสู่ระบบ การอัปเดตเบราว์เซอร์จะทำให้ส่วนประกอบเหล่านี้รองรับมาตรฐานความปลอดภัยและการเข้าสู่ระบบใหม่ๆ เช่น TLS 1.2 และโปรโตคอลการรับรองความถูกต้องที่ทันสมัย
ปัญหาอื่น ๆ ที่ซ้อนอยู่: การ Activate Office ล้มเหลว มักเป็นสัญญาณของปัญหาอื่นๆ ใน Windows ด้วย เช่น ปัญหาการจัดการสิทธิ์การเข้าถึง (Permission/Privilege) หรือโปรแกรม Antivirus/Firewall ที่บล็อกการเชื่อมต่อ
บางครั้งปัญหาถูกฝังอยู่ในไฟล์ระบบที่เสียหาย (System Files Corruption) ซึ่งเกิดจากการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ผิดปกติหรือการอัปเดตที่ไม่สมบูรณ์ หรือ ปัญหาจากไฟล์การติดตั้งเองไม่สมบูรณ์ โหลดมาไม่ครบระบบตัดก่อน หรือ ที่พอบ่อยคือ การที่เราห้ามผสมเทคโนโลยีการติดตั้ง Microsoft มีวิธีการติดตั้งหลักๆ เช่น Click-to-Run (C2R) (สำหรับ Office รุ่นใหม่ส่วนใหญ่) และ Windows Installer (สำหรับ Office รุ่นเก่า) คุณไม่สามารถติดตั้ง Office และ Visio ที่ใช้เทคโนโลยีการติดตั้งต่างกันบนเครื่องเดียวกันได้
จากปัญหาทั้งหมดที่กล่าวในตอนต้น เป็นเพียงส่วนนึง เเละจะเห็นว่า มันมีสาเหตุเป็นไปได้อีกมากมาย ดังนั้น การตัดสินใจ ลง Windows ใหม่แบบ Clean Installation จึงเป็นการแก้ไขที่ เร็วที่สุดและได้ผลชัวร์ที่สุด (อาจจะลอง Reset PC แบบ Clean file ก่อน) เพราะมันคือการ เริ่มต้นด้วยค่าโรงงานที่ถูกต้อง และการติดตั้งใหม่ จะมีการตั้งค่าเวลาและเปิดใช้งาน TLS 1.2 ที่พร้อมใช้งานทันที ล้างไฟล์ที่เสียหาย ขจัดไฟล์ระบบที่รวนหรือเสียหายทั้งหมดทิ้งไป จัดการสิทธิ์ใหม่ เริ่มต้นโปรไฟล์ผู้ใช้ใหม่ที่สะอาด ทำให้การล็อกอินและ Activate Office ทำงานได้อย่างราบรื่น
ป.ล. ลงวินโดว์ใหม่จากไฟล์เเท้ในเว็บไมโครซอฟท์นะครับ ไม่ใช่ไฟล์ ghost ทั้งชุดมา หรือ ไปให้ร้านคอม ลงปลอมมาให้ใหม่ทั้ง set ก็จะเจอปัญหาเดิมนะครับ เพราะพวกนี้เขาดัดแปลง ghost มาทั้ง set เเล้วครับ
แหล่งอ้างอิง: Unlicensed Product and activation errors in Office – Microsoft Support (ดูหัวข้อ “Check your computer’s date, time, and time zone”)
แหล่งอ้างอิง: Errors activating Microsoft 365 on older Windows versions – Microsoft Learn (เน้นย้ำถึงข้อกำหนด TLS 1.2)
แหล่งอ้างอิง: Unlicensed Product and activation errors in Office – Microsoft Support (ดูหัวข้อ “Check for multiple copies of Office”)
แหล่งอ้างอิง: Sign in issues when activating Microsoft 365 Apps – Microsoft Learn (ดูขั้นตอนการตรวจสอบ BrokerPlugin และ Credential Manager)
แหล่งอ้างอิง: Remove ‘Your License isn’t Genuine’ Banner in MS Office | Windows OS Hub (เป็นแหล่งข้อมูลทางเทคนิคที่อธิบายการล้าง KMS Activation และ Registry Keys อย่างละเอียด)

